หวั่นฆ่าตัวตาย! จีนออกโรงป้อง “จู อี้” นางฟ้าลีลาหลังโดนโซเชียลรุมบูลลี่

ดราม่าล่าสุดจากแผ่นดินใหญ่ เมื่อ จู อี้ นักกีฬาสเก็ตลีลากลุ่มชาติจีน ถูกกระแสสังคมในโลกออนไลน์รุมวิจารณ์อย่างหนัก จากการที่เธอโชว์ฟอร์มไม่ดีในโอลิมปิก ฤดูหนาว กรุงปักกิ่ง 2022

สำหรับ จู อี้ หรือ เบเวอร์ลี จู วัย 19 ปี เธอกำเนิดที่แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา โดยคุณพ่อคุณแม่คนจีนที่ย้ายถิ่นมาตั้งหลักแหล่งในแดนลุงแซม ซึ่งคุณพ่อนั้นเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ และก็ยังเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียด้วย

จู เริ่มแข่งขันสเก็ตลีลามาตั้งแต่ 8 ขวบ กระทั่งมาในปี 2018 ด้วยวัย 16 ปี จู ตกลงใจสละชนชาติอเมริกัน พร้อมประกาศจะลงแข่งขันในนามกลุ่มชาติจีนตามเชื้อสายบรรพบุรุษของเธอ

แม้กระนั้นล่าสุด สำหรับเพื่อการแข่งรอบท้ายที่สุด จำพวกหญิงเดี่ยว ในศึกโอลิมปิก ฤดูหนาว ที่กรุงปักกิ่ง จู โดนโจมตีอย่างหนักทางโลกออนไลน์ เมื่อเธอคุณพลาดตอนกระโดดหมุนและก็ล้มลงถึง 2 ครั้ง ซึ่งเธอเองก็รู้สึกตัวและก็ถึงกับร้องไห้ทั้งระหว่างแข่งและก็ข้างหลังจบการแข่งขันชิงชัย โดยจากการพลาดของเธอมีผลทำให้อันดับคะแนนรวมของจีนร่วงจากที่ 3 ไปเป็นที่ 5 ในทันที

โดยชาวเน็ตจีนที่ไม่สบอารมณ์หัวข้อนี้พากันกระหน่ำ จู อย่างหนักถ่วงในทันที ซึ่งเดิมทีเธอก็โดนแอนตี้ตั้งแต่การเปลี่ยนชนชาติจากอเมริกันมาเป็นจีนอยู่แล้ว เพราะเหตุว่าแฟนกีฬาจำนวนไม่ใช่น้อยเห็นว่า เธอใช้เส้นสายของคุณพ่อ รวมทั้งรูปพรรณสัณฐานที่สวยงามสำหรับเพื่อการกระทำคราวนี้

ชาวเน็ตจีนที่บูลลี่เธอผ่านแพลตฟอร์มเว่ยปั๋ว ซึ่งเปรียบได้เสมือนดั่งทวิตเตอร์เวอร์ชั่นจีน กระทั่งกำเนิดแฮชแท็ก #จูอี้ล้มตอนแข่ง

ซึ่งมีผู้เข้าชมในประเด็นนี้มากกว่า 230 ล้านครั้งในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ยกตัวอย่าง ได้แก่ “ก่อนจะมาทำอะไรเพื่อชาติ คุณช่วยไปเรียนภาษาจีนก่อนนะ”, “จู อี้ คุณทำทุกๆอย่างพังไปหมด”, “คุณเป็นสปายให้อเมริกาชัดๆคุณไม่ใช่ชาวจีน”, “คุณมันก็แค่ลูกคนมั่งมีที่เล่นไอซ์สเก็ตเป็น” และก็ “กลับไปแคลิฟอร์เนียเถอะ แย่มากมาย” เป็นต้น

อย่างไรก็ดี แฟนกีฬาที่ให้กำลังใจเธอก็มีจำนวนไม่น้อยด้วยเหมือนกัน เพราะเหตุว่าเห็นว่า เธอมีฝีมือพอใช้ และก็ทำเต็มกำลังแล้วสำหรับเพื่อการแข่งขัน รวมทั้งเป็นห่วงเรื่องภาวะจิตใจของเธอที่มีกระแสรายงานจากเพื่อนร่วมกลุ่มว่าอยู่ในขั้นย่ำแย่ กระทั่งบางทีอาจเกิดเหตุนึกไม่ถึงตามมาก็เป็นได้

ดังนี้ หน่วยงานรัฐที่รับผิดชอบการใช้สื่อโซเชียลเน็ตเวิร์คของจีนก็แสดงจุดยืนอยู่ฝั่ง จู อี้ ด้วยเหมือนกัน ด้วยการไล่บล็อกและก็แบนผู้ใช้ที่มีคอมเมนต์ไม่เหมาะสมออกไปจากระบบจำนวนมาก